การจัดการและควบคุม Live Event

ข้อจำกัดของ Producer

การควบคุม Live Event

1.ไปที่ปฏิทิน จากนั้นเลือก Live Event ที่ต้องการ แล้วกด Join โดยสามารถจัดการตั้งค่ากล้องและไมโครโฟนก่อนจะเข้าสู่ Event ได้เหมือนกับการ Meeting ปกติ ในหน้าต่างดังกล่าวสามารถเลือกได้ว่าจะเข้าร่วม Event ในฐานะ Producer หรือ Attendee ได้จากส่วนนี้

ในการควบคุม Live Event ต้องเข้าร่วมบน Desktop App เท่านั้น และ Producer จะไม่สามารถใช้ฟีลเตอร์พื้นหลังเบลอได้ในเวอร์ชั่นปัจจุบัน

2.เปิด Auditorium mode (ไม่จำเป็น) ควรทดสอบการใช้งานก่อนการใช้งานจริงและไม่แนะนำให้ใช้ร่วมกับไมโครโฟน Laptop เป็นโหมดที่ช่วยทำให้เสียงภายในห้องประชุมชัดขึ้น ควรเปิดใช้งานก่อนเริ่ม Live Event

3.เปิดกล้อง และเลือกกล้องที่บริเวณล่างจอเพื่อให้ขึ้นตัวอย่างของภาพก่อนการถ่ายทอดสดจริงที่หน้าจอด้านซ้าย ส่วนของหน้าจอด้านขวาคือภาพที่จะปรากฏจริงเมื่อทำการถ่ายทอดสด

4.สลับกล้องโดยการกดที่ Switch Camera ที่คิวกล้องด้านล่าง หรือไปที่ Device setting แล้วเลือกกล้องที่ต้องการ

5.กด Send live เพื่อส่งภาพตัวอย่างด้านซ้ายไปยังด้านขวาให้ผู้ชมเห็น

6.กด Start เพื่อเริ่มถ่ายทอดสด Live Event ดังกล่าว

การถ่ายทอดสดแบบ Live Event รองรับความละเอียดสูงสุดที่ 720p และอย่าลืมกดปิดไมค์ในขณะที่ยังไม่ถึงคิว และการ Live Event อาจเกิดดีเลย์ที่ราวๆ 15-60 วินาที

7.เมื่อกดปิดกล้องหรือหยุดแชร์หน้าจอ ทุกคนจะเห็นเป็นจอ Live event will resume in a moment ขึ้นมา

8.ถ้าต้องการแชร์หน้าจอ กดที่ปุ่ม Share -> Desktop จากนั้นเลือกหน้าจอที่ต้องการแชร์ (แนะนำให้ใช้จอมอนิเตอร์มากกว่า 1 จอ) -> Send live และเมื่อต้องการหยุดการแชร์หน้าจอให้กดที่ Stop sharing

9.ในการจัดคิวออกกล้อง ต้องทำการเชิญ Presenters คนดังกล่าวเข้าร่วม Event ก่อน และกล้องของ Presenters จะปรากฏให้เลือกที่บริเวณแถบด้านล่าง

Presenters หรือ Producers สามารถแชร์หน้าจอพร้อมกันได้สูงสุด 10 คน

10.ถ้าต้องการให้ได้ยินเสียงสิ่งแวดล้อมที่ชัดขึ้น สามารถเข้าไปปิดฟีเจอร์ลด Noise ได้ที่ Device setting -> Noise cancellation

11.ถ้าต้องการเชิญ Presenter เข้าร่วม Event สามารถเลือกได้จากรายการ Participants ในกรณีที่เคยส่งคำเชิญไปแล้ว ผ่านช่องแชทของ Event Group

12.เมื่อต้องการปิดการ Live Event สามารถกดได้ที่ปุ่ม End

เริ่มการ Live Event ใหม่

Producer สามารถกดเริ่ม Live Event ที่กำลังดำเนินอยู่หรือปิดไปแล้วได้

การ Restart Live Event จะทำให้ไฟล์บันทึกและข้อมูลต่างๆใน Live Event ครั้งแรกถูกลบออก รวมถึงจะไม่สามารถรับชมย้อนหลังได้ และระบบจะบันทึกเป็นของ Live Event รอบใหม่แทนทันที

กดที่ More actions (ปุ่มจุด 3 จุด) บริเวณมุมบนขวา -> Restart Event -> หน้าจอแจ้งเตือนจะปรากฏขึ้น -> กด Restart เพื่อยืนยันการ Restart Live Event ดังกล่าว เมื่อ Live Event ถูก Restart ผู้เข้าชมจะเห็นเป็นหน้าจอแจ้งเตือนให้รอ Producers และ Presenters จะถูกตัดการเชื่อมต่อกับ Live Event และต้องกดเข้าร่วม Live Event ใหม่เพื่อเริ่มถ่ายทอดสดต่อ

Last updated